ภาพ 3 มิติ หรือ ภาพ 3D หมายถึง การที่เราเขียน ภาพโดยการนำลักษณะของภาพต่างๆ มาประกอบกันไม่ว่าจะเป็น ภาพรูปทรงเลขาคณิต หรือ ภาพรูปทรงอิสระ ต่างๆ นำมาทำเป็นรูปเดียวกัน กล่าวง่ายๆ คือ เราสามารถที่จะมองเห็นรูปนั้นๆ มี ทั้ง ความกว้าง ความยาว ความหนา หรือ ความลึก ของชิ้นงาน ทำให้สามารถมองเห็นชิ้นงานนั้นไม่เป็นราบแบบภาพ 2 มิติ กล่าว ง่ายๆ คือ ภาพ 3 มิติ จะ ประกอบด้วย แกน x,y,z หรือ กว้าง ยาว สูง นั่นเองครับ ส่วนภาพ 2 มิติ จะมีแค่แกน แกนเดียว
1.งานพวก engineer หรือ งานพวก วิศวะ ใช้งานเพื่อในการขึ้นรูปโมน หรือ ขนาด สิ่งของต่างๆ เพื่อเอาไปใว้ใช้หน้างานจริงที่จะไม่ผิดพลาดต่อการสั่งผลิต และยังสามารถดูรูปทรงก่อนได้ว่าสวยงามตามที่ต้องการหรือไม่ สามารถ ต่อ joint หรือ ต่องานงั้นๆ เข้ากับ ตัวอื่นๆได้หรือไม่
2.งานพวก สถาปนิก บาง software ของสถาปนิกนั้น สามารถ ใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น การขึ้น มาดูรูปแบบ form ตัวอาคารก่อนว่าตรงไหนไม่โอเคสามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะ ถ้าเทียบกับในชีวิตจริงคงไม่มีใครที่สร้างตึกแล้ว แล้วอยากจะไปปรับเปลี่ยนหน้างาน ซึ่ง มันไม่สามารถทำได้ แล้ว software บางตัว สามารถ คำนวณ แรงลมได้ หรือ สามารถคำนวณความเป็นไปได้ อีกด้วย เช่น autodesk revit ที่สามารถจำลองลมในสถานที่นั้นๆ ได้ สำหรับใครที่สนใจตัวโปรแกรม สามารถดูได้ที่ โปรแกรมสำหรับเรนเดอร์ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ ในงานสถาปนิก และ ออกแบบภายใน หรือ อาจจะเป็น พวก งาน บิ้วอิน บิ้วอินครัว บิ้วอินห้องนอน เราก็ยังสามารถลดความผิดพลาดไปได้ หรือ สามารถ ไว้ใช้ทำ 3d perspective เพื่อที่จะได้เห็นหรือจำลองว่าภาพอาคารที่เราทำนั้น สวย หรือ มีมิติ แค่ไหน ครับ
3.งานระบบอาคารต่างๆ เราสามารถ manage หรือจัดการได้ว่า ในตัวอาคารนั้นๆ ควรที่จะวางท่อตรงไหน หรือ ระบบสุขาภิบาล เพื่อที่จะได้เช็คว่า ในส่วนของเรานั้นไม่ไป ชน หรือ ไป error กับตัว โครงสร้างหรืองานสถาปัตยกรรม ซึ่ง จะสามารถ ช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้อีกด้วย
จากที่กล่าวมาเราจะเห็นว่า การขึ้น ภาพ 3D หรือ ภาพ 3 มิตินั้นจะทำให้เราจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง และลดการพิดพลาดของตัวงานนั้นๆได้อีกด้วยดังนั้น บางงานเราก็ควรที่คุ้มที่จะต้องเสียเงินเพื่อค่าขึ้นโมเดล เล็กน้อยเพื่อลด ความ ผิดพลาด ในส่วนนี้ ด้วย ครับ